เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ระยอง -เผาแล้วเด็กชายวัย 14 ปี ใน จ.ระยอง เหยื่อความรุนแรงวัยรุ่นกร่างอ้างครอบครัวรวยไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานในพิธี ขณะยาย และพี่ชายผู้ตายลั่นไม่อโหสิกรรม ขอให้ผู้ก่อเหตุใช้กรรมในคุก ซึ่งล่าสุดไม่มีญาติประกันตัว ถูกนำเข้าเรือนจำแล้ว
จากเหตุการณ์หนุ่มกร่างวัย 18 ปี ทำร้ายเด็กชาย 14 ปี จนเสียชีวิต และวันนี้ (10 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยโป่ง ได้นำตัวส่งศาลจังหวัดระยอง เพื่อดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ก่อนนำตัวฝากขังที่เรือนจำจังหวัดระยอง
ขณะที่นายประกันที่เคยใช้เงินสด จำนวน 20,000 บาท ยื่นประกันตัวผู้ต้องหาในคดีก่อนหน้า ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นบาดเจ็บสาหัสจนได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ได้มายื่นเรื่องขอถอนประกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 15.00 น.ที่ผ่านมา นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพ ด.ช.วงศธร บางขุนทด อายุ 14 ปี หรือ “ฟลุ๊ค” ซึ่งถูกนายโดม อายุ 18 ปี ทำร้ายจนเสียชีวิต โดยพิธีดังกล่าวจัดขึ้นที่วัดห้วยโป่ง อ.เมือง จ.ระยอง
โดยมียาย และคนในครอบครัวให้การต้อนรับท่ามกลางความโศกเศร้า และมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความเรียบร้อยภายในงาน
ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เผยว่า ต้องการจะให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิต ส่วนเรื่องคดีทราบว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เพิ่มข้อกล่าวหาเจตนาฆ่าผู้อื่นต่อผู้ก่อเหตุแล้ว และล่าสุดยังไม่มีการอนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาจนถูกส่งตัวเข้าเรือนจำแล้ว
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ลงพื้นที่ตรวจค้นในจุดที่ผู้ต้องหากล่าวในคลิปทั้งหมดแต่ยังไม่พบทั้งยาเสพติด และอาวุธปืนตามที่ผู้ต้องหากล่าวถึง” ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าว
ด้าน นางบุญทา ทาเพียรทุ อายุ 61 ปี ยายของผู้เสียชีวิตเผยทั้งน้ำตาว่า จะไม่อโหสิกรรมให้ผู้ก่อเหตุ และจะปล่อยให้ได้ชดใช้กรรมที่ก่อขึ้น ซึ่งการกระทำของชายวัย 18 ปี ถือว่าโหดร้ายเกินไป และขอขอบคุณการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ให้ความเป็นธรรมกับหลานชาย
เช่นเดียวกับ นายภู อายุ 22 ปี พี่ชายของผู้เสียชีวิต บอกว่า คำกล่าวของนายโดม ที่ว่าพลั้งมือฆ่าน้องชายและไม่ได้ตั้งใจนั้น ถือเป็นคำโกหก เพราะในช่วงที่ลงมือทำร้ายแค่ถีบน้องชายตนเองจนล้มก็ควรจะหยุด แต่ผู้ก่อเหตุกลับใช้สายไฟขนาดใหญ่ตีซ้ำจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต
“ส่วนคำขอโทษของ นายโดม มันสายไปแล้วที่จะยอมรับ เพราะการกระทำมันรุนแรงเกินให้อภัย และจะไม่อโหสิกรรมให้ พร้อมขอให้ไปรับกรรมในคุก ส่วนทางครอบครัวของนายโดม ยังไม่มีใครมาร่วมงานศพ” พี่ชายผู้เสียชีวิต กล่าว