วันอาทิตย์ ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.
อุตุฯย้ำฝนกระหน่ำหนัก
เขื่อนเจ้าพระยาเร่งระบายน้ำ
อุตุย้ำฯ “ฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงนี้ เขื่อนเจ้าพระยาเร่งระบายน้ำ ในขณะที่ “บิ๊กป้อม” สั่งทุกฝ่ายเตรียมพร้อมรับมือ เตรียมลงพื้นที่แก้ปัญหาน้ำท่วมจังหวัดน่าน ตรวจความเสียหายจากผลกระทบของพายุโซนร้อน “มู่หลาน” เข้าท่วมพื้นที่
กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือน ฉบับที่ 4 ระบุ ในช่วงวันที่ 20-22 สิงหาคม 2565 ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย เริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้
วันที่ 21 สิงหาคม 2565 ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร และตาก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก: จังหวัดฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา และภูเก็ต
วันที่ 22 สิงหาคม 2565 ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร และตาก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา และบุรีรัมย์
ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก: จังหวัดฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง และพังงา
สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง ทำให้คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลางโดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
มีรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะผู้บริหารเตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.น่าน ในวันที่ 22 สิงหาคม 2565 เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ หลังจากในพื้นที่ได้รับผลกระทบจาก พายุดีเปรสชั่น “มู่หลาน” ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้น้ำท่วมสูงในเขตเทศบาล จนเข้าขั้นวิกฤต สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง รวมถึงเดินหน้าให้ความช่วยเหลือตามนโยบายของรัฐบาล โดยมี นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นผู้สรุปภาพรวมและสถานกาณ์น้ำในพื้นที่ และรับฟังรายงานจากตัวแทนหน่วยงานราชการต่างๆ ประกอบด้วย ข้อมูลและสถานการณ์น้ำ จ.น่าน การแก้ไขปัญหาน้ำหลาก รวมถึงข้อมูลความเสียหายของพื้นที่ต่างๆ ที่ประชาชนได้รับผลกระทบ และการวางแผน ขอรับจัดสรรงบประมาณในด้านการบริหารจัดการน้ำในภาพรวมของจังหวัด ขณะเดียวกันยังได้นำเสนอความคืบหน้าแผนดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมโยงเศรษฐกิจภูมิภาค ระหว่างบ้านผาเวียง อ.ฝากท่า จ.อุตรดิตถ์ และบ้านปากนาย อ.นาหมื่น จ.น่าน
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร จะเดินทางไปติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการการก่อสร้างฝายกั้นลำน้ำซาว บ้านศรีเกิด อ.เมืองน่าน ที่องค์การบริหารส่วนตำบลไชยสถาน และเดินทางไปยังพื้นที่ ต.บ่อ อ.เมืองน่าน เพื่อติดตามความก้าวหน้าการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุมู่หลาน บริเวณสะพานที่ชำรุด พร้อมทั้งรับฟังการนำเสนอข้อมูลความเสียหายและการจัดสรรงบประมาณในการแก้ไขปัญหาให้แก่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน และจะเดินทางไปพบปะประชาชนพร้อมมอบสิ่งของช่วยเหลือให้กับผู้แทนประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จำนวน 1,000 ชุด
ส่วนที่จังหวัดชัยนาท ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์น้ำเจ้าพระยา เมื่อเวลา 06.00 น. น้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2 นครสวรรค์ 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 44 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทั้งนี้ กรมชลประทานเตรียมปรับการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น ในช่วงวันที่ 20-24 สิงหาคมนี้ เนื่องจากคาดจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ส่งผลให้มีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มเจ้าพระยา ไหลลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง จะมีปริมาณระหว่าง 1,900-2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที กรมชลประทานจึงต้องทยอยปรับการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จาก 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ไปจนถึงอัตรา 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยเริ่มทยอยปรับตั้งแต่วันนี้
ในช่วงวันที่ 23-25 สิงหาคม 2565 จะปรับการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 1,500-1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 40-80 เซนติเมตร จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย เตรียมรับสถานการณ์ และเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด