หลอกแม้กระทั่งพระ! โจรแสบอ้างตัวเป็นขรก.ระดับสูงตุ๋นพระสูญหลายหมื่น

ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

วันที่ 26 กค. เวลาประมาณ 15.00 น. พ.ต.ท.อุดม  โกยเก็บ สว.(สอบสวน)สภ.เมืองระยอง รับแจ้งจาก พระยิ่งยศ มหามงคโล ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดตรีมิตรประดิษฐาราม บ้านขวักลิง ตำบลบ้านแลง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง  พร้อมทั้งนำหลักฐานสลิปการโอนเงิน จำนวน 28,000 บาท จากธนาคารออมสินเข้าบัญชี นายวรวุฒิ จงวุฒิ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ หมายเลขบัญชี 020-190-692-140มอบให้เป็นหลักฐาน เพื่อลงบันทึกประจำวันและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนช่วยติดตามจับตัวนายวรวุฒิ จงวุฒิ มาดำเนินคดี  

ทั้งนี้พระยิ่งยศ ให้การว่า ก่อนเข้าเดินทางมาแจ้งความนั้น ได้มีโทรศัพท์จากชายคนหนึ่งได้โทรศัพท์เข้ามาถึงเจ้าอาวาสวัด โดยอ้างตัวว่าเป็นผู้มีจิตศัทธา ชื่อนายทรงธรรม สุขสว่าง ข้าราชการระดับสูงของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งพื้นเพเป็นคนตำบลบ้านแลง เช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากเจ้าอาวาสชราภาพมากแล้ว จึงให้รับสายโทรศัพท์แทน โดยชายดังกล่าวอ้างว่า นายทรงธรรม สุขสว่าง ขณะนี้ไม่สบายและจะขายกิจการที่ทำอยู่ในกรุงเทพฯ จากผลกระทบโควิด-19 และได้มีอุปกรณ์สำนักงานหลายอย่างทั้ง คอมพิวเตอร์ โต๊ะเก้าอี้ รวมทั้งรถตู้อีก 1 คัน ซึ่งเป็นรถตู้รุ่นเดียวกับรถตู้ของนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยใช้ประจำตำแหน่ง จะนำมาถวายให้วัดด้วย แต่รถตู้ที่จะถวายนั้นได้จอดทิ้งไว้นานแล้ว จึงต้องนำไปซ่อมเสียก่อน หากทางวัดต้องการจะเอามาใช้ ขอให้ฝ่ายออกค่าซ่อมก่อน เป็นเงินจำนวน 28,000 บาทและจะนำสิ่งของทั้งหมดมาถวายในช่วงเย็นวันนี้(26กค.) พร้อมทั้งขอค่าอาหารเลี้ยงลูกน้องที่จะขนของมาถวายวัดด้วย เป็นเงิน 2 พันบาท 

ซึ่งตนเห็นว่านายทรงธรรม เป็นคนบ้านแลงเช่นเดียวกันและเป็นข้าราชการ คงไม่หลอกพระและคงไม่มีใครมาอ้างชื่อเป็นนายทรงธรรม แน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นแก๊งมิจฉาชีพแสบยังหลอกซ้ำอีกว่า ในวันที่ 7-8 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ จะจัดผ้าป่า 2 กองมาทอดถวายที่วัด และจะคืนเงินให้ ยิ่งทำให้ตนมั่นใจโอนเงินจำนวนดังกล่าวให้ไปในนามของ นายวรวุฒิ จงวุฒิ และกว่าจะมารู้ว่าถูกหลอกตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพแล้ว เมื่อช่วงสายวันนี้ ได้รับกิจนิมนต์ไปพบกับญาติของนายทรงธรรม สุขสว่าง จึงได้สอบถามถึงนายทรงธรรม ว่าไม่สบายนอนโรงพยาบาลจริงหรือ ญาติของนายทรงธรรม บอกว่านายทรงธรรม ไม่เป็นอะไรและยังสบายดีทำงานปกติ จึงทำให้เกิดเอะใจ จนต่อมาแก๊งมิจฉาชีพ ได้โทรศัพท์ติดต่อมาอีก ขอทางให้วัดโอนเงินไปให้อีก 15,000 บาท จึงปักใจเชื่อว่าคงถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกแล้วแน่นอน ตนจึงไม่ได้โอนเงินให้อีก จากนั้นเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน เพื่อสืบสวนจับตัวมิจฉาชีพรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป

ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่