เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจกองบังคับการปราบปราม นำกำลังเข้าจับตัว นายสมชาย จุติกิติ์เดช หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “หลงจู๊สมชาย” หลังเขาตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับพร้อมกับพวกอีก 4 คน ในข้อหาร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นพนัน โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยตำรวจสามารถตามไปจับตัว หลงจู๊สมชาย ได้ที่บ้านพักกลางเมืองระยอง ต่อมาคุมตัวไปสอบสวนต่ออยู่ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง โดย พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาสอบปากคำด้วยตัวเอง
พลตำรวจเอกสุวัฒน์ เปิดเผยว่า การออกหมายจับในครั้งนี้ตำรวจพบหลักฐานว่านายสมชายพร้อมกับพวกร่วมกันลักลอบเปิดบ่อนการพนันพื้นที่อำเภอมาบตาพุด จังหวัดระยอง เมื่อเดือนมิถุนายน 2563
ตำรวจจึงระดมกำลังตรวจค้นทั้งหมด 10 จุดในพื้นที่จังหวัดระยอง พบหลักฐานเป็นอุปกรณ์การเล่นพนันจำนวนหนึ่ง บางจุดพบตู้เซฟ โดยก่อนที่ตำรวจเข้าตรวจค้นเชื่อว่านายสมชาย พร้อมกับพวก อาจรู้ตัวมาก่อนหน้านี้ เนื่องจากทรัพย์สินบางส่วนถูกเคลื่อนย้าย รวมถึงมีการถอดกล้องวงจรปิดออก ขณะที่เงินหมุนเวียนในบัญชีของผู้ต้องหาบางคน พบว่ามีเงินจำนวนกว่าหนึ่งร้อยล้านบาท ตำรวจคาดว่าอาจมีการยักย้ายถ่ายเทเงินของกลุ่มผู้ต้องหาจากการลักลอบเปิดบ่อนพนันโอนมาให้
จากการสอบปากคำนายสมชายยังให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระหว่างที่นายสมชายถูกตำรวจควบคุมตัวมาสอบสวน นายสมชายพยายามตะโกนบอกกับผู้สื่อข่าวว่าตัวเองโดนกลั่นแกล้ง อ้างว่าตำรวจนำคดีเก่ามาดำเนินคดีกับตัวเอง
ที่ผ่านมา หลงจู๊สมชาย มีประวัติพัวพันธุรกิจพนันในพื้นที่ภาคตะวันออก ทั้งตู้ม้า ตู้สล็อตและบ่อนการพนัน จนนำมาสู่ต้นต่อของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
หลังจากนี้ตำรวจจะนำตัวหลงจู๊สมชาย ไปส่งศาลแขวงจังหวัดระยองฝากขัง โดยคัดค้านการประกันตัว และจะเร่งติดตามผู้ต้องหาอีก 4 คน ที่ถูกออกหมายจับมาดำเนินคดีกรณีเกี่ยวกับการพนันตู้ม้าและตู้สลอต ซึ่งตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นเครือญาติของนายสมชาย
ส่วนการดำเนินคดีจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ในเรื่องของบ่อนการพนันจะให้ตำรวจภูธรจังหวัดระยองเป็นผู้รับผิดชอบคดี ส่วนเรื่องทรัพย์สินและการฟอกเงินของกลุ่มผู้ต้องหาจะส่งให้ตำรวจกองบังคับการปราบปรามเป็นผู้ดำเนินการ
หลังจากนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยืนยันว่าจะเร่งดำเนินคดีกวาดล้างผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ที่ลักลอบเปิดบ่อนพนันทั้งหมด คาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบอีกสักระยะหนึ่ง