จี้ ตร.จับแก๊งวัยรุ่นโหด ฉุนถูกเจ้าของจับได้ขณะขึ้นไปนั่งรถยนต์ที่ลืมล็อคประตู ไม่ยอมลงอ้างเป็นรถตัวเอง ก่อนจะมีเรื่องกัน สู้ไม่ได้พาพวกร่วม 30 คน รุมตีจนเลือดคั่งในสมอง แถมยังข่มขู่ถึงตายให้ย้ายออกจากหมู่บ้าน หัวโจกยังลอยนวลขี่จยย.ตระเวณข่มขวัญ ถึงบ้าน จนหวาดผวา แปลกใจทำไมจึงไม่มีการจับกุม
วันที่ 3 ม.ค. 66 ผู้สื่อข่าว ได้รับการร้องเรียน จากนางประณี ภักดีแสง อายุ 45 ปี เจ้าของร้านเจ้ปลาส้มตำไก่ย่าง หมู่บ้านสระแก้ว ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง กรณี ที่ถูก กลุ่มวัยรุ่นประมาณ 30 ราย บุกเข้ามาทำร้าย ถึงในร้านส้มตำ ขณะเลี้ยงสังสรรค์กับครอบครัว จนเป็นเหตุ ให้นายสวัสดิ์ ภักดีแสง อายุ 45 ปี น้องชาย ถูกทำร้ายถ ด้วยการใข้ทั้งท่อนเหล็ก ท่อนไม้ และ ขวดตีที่ศีรษะจนเป็นแผลฉกรรจ์ เลือดไหลไม่หยุด จนหมดสติไป
นางประณี ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ขณะที่ตนเองพร้อมด้วยครอบครัวและญาติ กำลังนั่งสังสรรค์กันอยู่หน้าร้าน โดย น.ส.วนิดา โตแดง อายุ 30 ปี ได้ขับรถมาพร้อมกับแฟนหนุ่ม เป็นรถกระบะสี่ประตูยี่ห้อมิตซูบิชิ สีบรอนซ์เงิน โดยจอดริมถนนตรงข้ามกับร้าน แต่กลับลืมล็อกประตู จู่ๆก็เห็น นายหนึ่ง และ นายจิน วัยรุ่นในหมู่บ้าน เดินมาที่รถ แล้วนายจิน ก็เปิดประตูรถขึ้นไปนั่งตรงเบาะคนขับ ส่วนนายหนึ่ง ยืนอยู่ที่ประตูรถอีกฝั่ง เมื่อเห็นดังนั้น น.ส วนิดา จึงรีบเดินไปที่รถยนต์ทันที
น.ส.วนิดา ได้เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนเองเดินไปที่รถยนต์ ก็รีบบอกให้คนบนรถลงจากรถ แต่นายจินกลับบอกว่าเป็นรถยนต์ของเขาลูกพี่ซื้อให้ ส่วนนายหนึ่งได้พูดว่า ตนเองไม่รู้เรื่องเขาชวนมา ตนเองจึงเถียงพร้อมจะเข้าไปหยิบหลักฐานเล่มทะเบียนในรถให้ดู แต่ทั้งสองคนไม่ยอมให้เข้าไปในรถ โดยนายหนึ่งก็ไม่ยอมลงรถ ยอกให้เอาคนมาเคลียร์ จึงแปลกใจว่าจะต้องเคลียร์ทำไมก็ในเมื่อเป็นรถเรา จึงมีการพูดเสียงดัง ทางสามีของตน และ นายสวัสดิ์พร้อมกับญาติผู้ชายรงม3คน ก็ได้เดินมาดูเหตุการณ์ พร้อมทั้งบอกให้ลงรถ มีการชี้หน้ากันไปมา จนกระทั่งเกิดการชกต่อยกันขึ้น ทางแฟนก็ห้ามจนยุติ ทั้งหมดก็กลับไป แล้วก็พาพวกมาอีกรอบจำนวน 3 คน มีการปรี่เข้ามาทำร้าย สุดท้ายทุกคนเข้าห้าม จนต่างก็แยกย้ายกันไป นึกว่าจะจบเรื่องแล้ว
ต่อมาไม่นานนายหนึ่งและนายจินก็ยกพวกกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 30 คน มายืนที่หน้าร้าน พร้อมทั้งตะโกนด่าและให้คนที่ชกต่อยกันออกมา โดยส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก มีผู้ชายเพียง 3 คน พยายามไกล่เกลี่ย ขอโทษ ทั้งยกมือไหว้ แต่ก็ไม่เป็นผล โดยมีตำรวจมาอยู่ในที่เกิดเหตุ1นาย จึงบอกให้ช่วยแต่ตำรวจกลับไม่ยอมห้าม ยอกว่าถ่ายคลิปไว้หมดแล้ว หลังจากนั้นมีการปาขวดเข้ามาในร้าน คนในร้านต้องวิ่งหาที่หลบกันอลหม่าน ยังไม่หยุด กลุ่มวัยรุ่นที่มีทั้งท่อนเหล็ก ไม้ และ ขวดอยู่ในมือ พยายามจะ บุกกรูเข้ามาในร้าน ผู้หญิงก็พากันไปห้าม แต่สุดท้ายต้านแรงไม่ไหว ทั้งหมดก็บุกเข้าไปในร้าน เข้าทำร้ายนายส
สวัสดิ์ และ ญาติ ทั้งสองคนที่หลบอยู่ในครัว โดยเข้าทำร้าย ใช้ไม้ ท่อนเหล็ก และ ขวด ตีจนล้มฟุบหมดสติจมกองเลือด ส่วนญาติอีกคนวิ่งหนีออกไปได้จึงรอด ส่วนนายสวัสดิ์แน่นิ่งไปแล้ว ทุกคนจึงวิ่งเข้าไปห้าม โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายขับรถยนต์มาถึง แล้วก็เข้าไปไล่ให้ทุกคนกลับไป จึงทำให้ทั้งหมดแยกย้ายกันกลับ แต่ยังตะโกนว่า จะตามล่าคนที่เหลือจะเอาให้ถึงตาย และ บอกให้ย้ายออกจากพื้นที่ ไม่งั้นโดนแน่ ก่อนกลับไป
น.ส.วนิดา เปิดเผยต่ออีกว่า ในขณะเกิดเหตุ ตอนชุลมุน แต่ตำรวจที่แต่งเครื่องแบบเต็มยศ กลับไม่ยอมห้าม และ เรียกกำลังเสริม กลับบอกว่าถ่ายคลิปไว้หมดแล้ว ต่อมาก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกสองนายขับรถยนต์มาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่ยังคงยืนอยู่ที่จุดเกิดเหตุ แต่ตำรวจไม่มีการจับกุม แค่เดินไปไล่ให้กลับบ้าน จึงแปลกใจว่าตีคนจนปางตายไม่ผิดหรืออย่างไร ต่อมา เวลา 01.31 น.วันที่ 1 ม.ค.65 จึงเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.สิรวิชญ์ วรสาร รองสว.(สอบสวน) สภ.บ้านฉาง ระยอง ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บถูกส่งตัวต่อไปรักษาอาการบาดเจ็บที่ รพ.ระยอง พบว่ามีบาดแผลที่ศีรษะถูกตีอย่างแรง จนเป็นแผลแตกเย็บหลายเข็ม และมีเลือดคั่งในสมอง ล่าสุดแพทย์ให้รอดูอาการ
น.ส.ประณี ได้เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ตนเองและญาติซึ่งเป็นผู้หญิงทั้งหมด ต่างก็หวาดกลัว เพราะมีการข่มขู่จากกลุ่มที่ทำร้าย ว่าถ้าเจอผู้ชายอีกสองคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตายแน่ และยังขู่ให้ย้ายออกจากพื้นที่ จึงกลัวจนไม่กล้าเปิดร้าน เพราะห่วงว่าจะถูกบุกมาทำร้ายอีก เลยให้ญาติผู้ชายอีก 2 คนที่อยู่ในเหตุการณ์ ออกไปจากพื้นที่ก่อน ตอนนี้จึงมีแต่ผู้หญิง เมื่อวาน นายหนึ่ง ผู้ก่อเหตุ ยังขี่จยย.มาวนเวียนที่หน้าบ้าน ติดตามเรื่องที่ สภ.บ้านฉาง ปรากฎว่า ร้อยเวร เจ้าของคดีลางาน ตำรวจในโรงพักบอกว่าต้องรอให้ร้อยเวรกลับมาก่อนจึงดำเนินการได้ ทั้งที่รู้ตัวกลุ่มที่มาทำร้าย และ มีตำรวจมาในช่วงเกิดเหตุและถ่ายคลิปผู้ก่อเหตุไว้ มีหลักฐานชัดเจน แปลกใจว่าทำไมจึงไม่มีการจับกุมผู้ก่อเหตุ ซึ่งถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายพยายามฆ่าได้เลย จึงต้องการให้ทางตำรวจเร่งดำเนินการ เพราะกลัวมาก และ ต้องทำมาหากิน เหตุที่เกิดขึ้นก็เพียงเพื่อปกป้องรถยนต์ แต่กลับบานปลายจนถูกทำร้ายปางตาย ไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว ฝากให้หยุดเลิกแล้วต่อกันเถิด ทำกันขนาดนี้แล้วยังไม่สาแก่ใจอีกหรือ และ อยากทราบว่าจุดประสงค์ที่ไปขึ้นรถยนต์ของคนอื่น มีอะไรแอบแฝงหรือไม่
เบื้องต้น พ.ต.อ.ไพทูรย์ ปาปะคัง ผกก.สภ.บ้านฉาง ระยอง ได้กล่าวว่า เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ได้ เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเข้ามาพบ กำชับให้ลงพื้นที่ตรวจสอบหาหลักฐาน เพื่อดำเนินการจับกุมกลุ่มผู้กระทำผิด ใครร่วมก่อเหตุต้องดำเนินคดีทุกคน ส่วนทางผู้เสียหายที่หวาดกลัว จะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปดูแล ยืนยันจะให้ความเป็นธรรม คนผิดย่อมต้องรับโทษ จะมาอยู่เหนือกฎหมายไม่ได้
ราชัญ กองทอง ผู้สื่อข่าว ประจำ จ.ระยอง