วันที่ 19 ต.ค.65 จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก ”ข่าวสาร บ้านค่าย” ได้ลงเตือนภัยว่า มีหญิงลักษณะวัยรุ่นก่อเหตุเติมน้ำมันใส่แกลอนจำนวนมากแล้วหลอกโอนเงินผ่านแอปธนาคารทางโทรศัพท์ แต่ไม่มีเงินเข้าบัญชี ซึ่งก่อเหตุ 3 วันติด เหตุเกิดที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง หมู่ 9 ตำบลชากบก อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง รถยนต์ใช้ก่อเหตุเป็นรถกระบะ ยี่ห้อ อีซุซุ รุ่น ดีแมก สีดำ ทะเบียนชลบุรี แต่ยังหลบหนี จึงโพสต์เตือนภัยนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ห้องวิทยุสถานีตำรวจภูธรบ้านค่าย อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี แจ้งว่าพบรถยนต์คันดังกล่าวมาจอดอยู่ภายในปั๊มน้ำมันเชลล์ หมู่ 2 ตำบลบางบุตร อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง คาดว่ากำลังจะมาก่อเหตุอีกจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ และได้นำผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว และรถยนต์คันดังกล่าวมาที่สถานีตำรวจภูธรบ้านค่าย
ทราบชื่อคนขับรถยนต์คันดังกล่าว ชื่อนางสาววรินทร์กร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี อยู่หมู่ 16 ตำบลประทวน อำเภอประทวน จังหวัด นครราชสีมา อยู่ในอาการหน้าเศร้า โดยมีนางสาวสีดาสิริ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี อยู่หมู่ 4 ตำบลปลวกแดง อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง พนักงานเติมน้ำมันของปั๊มน้ำมันดังกล่าว ซึ่งผู้เสียหายได้รับมอบอำนาจจากเจ้าของปั๊มน้ำมัน ชี้ตัวผู้ต้องหา และต่อมาได้นำตัวผู้ต้องหาไปชี้ที่เกิดเหตุ ที่ปั๊มน้ำมันดังกล่าว
นางสาวสีดาสิริ พนักงานเติมน้ำมัน เล่าให้ฟังว่า วันที่เกิดเหตุ วันที่ 16 ต.ค. เวลา 09.00 น. ขณะที่ตนปฏิบติหน้าที่อยู่ที่ปั๊มน้ำมัน ได้มีผู้ต้องหาขับรถยนต์คันดังกล่าวเข้ามาภายในปั๊มน้ำมัน และบอกให้เติมน้ำมันดีเซลใส่ถังเป็นเงิน 1,500 บาทหลังจากเติมเสร็จแล้วผู้ต้องหาบอกว่าจะสแกนจ่ายโดยผ่านแอปธนาคาร หลังจากทำรายการแล้วได้ส่งโทรศัพท์ให้ดูว่าได้โอนแล้ว และขับรถยนต์ออกไป
ต่อมาวันที่ 17 ต.ค. เวลา 09.00 น. หญิงคนเดิมได้เข้ามาที่ปั๊มอีกและบอกว่าให้เติมน้ำมันใส่แกลอนที่อยู่หลังรถกระบะ เติมไปเป็นเงิน 11,800 บาท และใช้วิธีเดิมบอกว่าโอนผ่านแบงค์แล้ว และขับรถยนต์ออกไป
จากนั้น วันที่ 18 ต.ค. หญิงคนดังกล่าวได้เข้ามาอีก นางสาวสีดาสิริ ได้บอกว่า เมื่อ 2 วันก่อนที่เติมน้ำมันไปนั้น ยังไม่มีเงินผ่านเข้าบัญชีเลย ซึ่งวันนี้ก็ยังเติมน้ำมันดีเซลใส่ถังอีกเป็นเงิน 8,600 บาท และได้ขับรถยนต์หนีไปอีก จึงได้มาแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรบ้านค่ายไว้แล้ว
นางสีดาสิริ เล่าอีกว่า วันแรกที่หญิงคนดังกล่าว มาเติมน้ำมันใส่ถังไปเป็นเงิน 1,500 บาท ตอนที่หญิงคนดังกล่าวยื่นโทรศัพท์ให้ตนดูบอกว่าโอนให้แล้ว ขณะนั้นตนไม่รู้ว่าโอนเงินเข้ามาหรือยัง เพราะโทรศัพท์ไม่ได้อยู่ที่ตนเอง อยู่ที่เจ้าของปั๊ม และยอดเงินจากการขายทั้งหมดของวันที่ 16 นั้น ตนเองเพิ่งจะมาส่งอีกวันหนึ่ง และวันที่ 17 ที่หญิงคนดังกล่าวได้มาเติมน้ำมะนใส่แกลอนหลังรถยนต์ไป 11,800 บาท วันนั้นตนเองไม่ได้เข้างาน มีลุงผู้ชายอีกคนหนึ่งอยู่ วันที่ 18 ได้มาเติมใส่ถังไปอีก 8,600 บาทและได้หนีไปอีก จนกระทั้งวันนี้ถูกจับกุมตัว
ต่อมาได้มีนางสาวแพรพลอย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี เจ้าของร้านขายของชำ พอทราบข่าวจึงได้มาดูหน้าตาผู้ต้องหาที่เคยก่อเหตุเมื่อหลายเดือนก่อน ยืนยันว้าใช่คือ มาซื้อของภายในร้านค้าไปประมาณ 2,000 บาท และได้สแกนจ่ายผ่านแอป แต่เงินไม่เข้าผ่านระบบ เนื่องจากผู้ต้องหาหลังจากก่อเหตุนั้นแค่ให้ดูว่ามีการโอนเงินผ่านจริง แต่ไม่ได้กดยืนยัน เงินจึงไม่ผ่านบัญชีของผู้รับ
เบื้องต้นได้ยึดรถยนต์คันดังกล่าวเพื่อตรวจสอบ กล่าวหาผู้ต้องหาว่า ลักทรัพย์ของผู้อื่น โดยใช้กลอุบาย โดยใช้ยานพาหะนะในการกระทำผิด พาทรัพย์นั้นไปให้พ้นการจับกุม นำตัวผู้ต้องหาส่ง พันตำรวจตรี ชณัฐชัย วงศ์ศรีวิจิตร สารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรบ้านค่าย ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป