“ชาญเชาวน์” ประธาน กก.สอบบ่อนพนัน ระบุสอบธุรกรรม “หลงจู๊สมชาย-เสี่ยโป้” แล้ว พบ “ตำรวจ-ฝ่ายปกครอง” 20-30 ราย มีส่วนเกี่ยวข้องกับบ่อนการพนัน เผยนายกฯ เร่งรัดให้เร็ว ดึง “มท.-กอ.รมน.” ผนึกกำลังบังคับใช้ กม.ร่วมกัน
วานนี้ (25 ก.พ.) นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำความผิดกรณีสถานที่เล่นการพนันเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดต่อโควิด-19 เปิดเผยภายหลังส่งรายงานฉบับแรกให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า นายกฯรับทราบ และเร่งคณะทำงานฯ ให้ทำงานเร็วขึ้น ดังนั้นจึงติดตามความคืบหน้าของคณะอนุกรรมการทั้ง 3 ชุด อย่างต่อเนื่อง พบว่ามีความก้าวหน้าไปมาก โดยเฉพาะอนุกรรมการตรวจสอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้รายงานผลการสืบสวนบ่อนการพนันใน จ.ระยอง ยังเดินหน้าต่อได้ ขณะที่อนุกรรมการด้านข้อมูลและสืบสวนเส้นทางการเงินยังสอบเส้นทางการเงินเรื่อยๆ ขณะนี้จะเน้นที่ จ.ระยอง ก่อน และประชาชนยังแจ้งเบาะแสของบ่อนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังสรุปไม่ได้ว่าสถานการณ์บ่อนน้อยลงหรือไม่
“การตรวจสอบเส้นทางการเงินของหลงจู๊สมชาย (นายสมชาย จุติกิติ์เดชา) และนายเสี่ยโป้ (โป้อานนท์) ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ แต่ยังไม่ได้ไปไกลถึงการตรวจสอบว่า มีการนำเงินไปสร้างบ้านจัดสรรเพื่อฟอกเงิน” นายชาญเชาว์ กล่าว
นายชาญเชาวน์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งตำรวจ และฝ่ายปกครอง ราว 20-30 รายมีส่วนเกี่ยวข้องกับบ่อนการพนัน ขณะนี้ทราบว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กำลังดำเนินการ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงมหาดไทย และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) หารือถึงแนวทางประสานงานการสอบสวนและการบังคับใช้กฎหมายร่วมกัน โดยไม่จำเป็นต้องตั้งชุดเฉพาะกิจ เพียงแต่ย้ำให้เป็นข้อสั่งการหรือทำให้เป็นแนวปฏิบัติ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้รับผิดชอบ.