ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานยศตำรวจชั้นนายพล ระบุตามที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ซึ่งคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) มีมติเห็นชอบให้รับโอนมาบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ พ้นจากตำแหน่ง รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 นั้น บัดนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานยศ พล.ต.ท.แก่ พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.เป็นต้นไป ๐
กลายเป็นขุนศึกคู่ใจ บิ๊กปั๊ด-พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข แม่ทัพใหญ่สีกากีไปแล้ว สำหรับตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ “หนุมานกองปราบ” เพราะเท่าที่เห็นๆ ในรอบไม่กี่วันที่ผ่านมา ทีม “หนุมานกองปราบ” ออกปฏิบัติงานร่วมกับ “บิ๊กปั๊ด” ถึง 2 ครั้ง 2 ครา ตั้งแต่ปฏิบัติการ ชัตดาวน์ กาแล็กซี่ออนไลน์ ที่ยกกำลังไปตามคำสั่ง “ผบ.ตร.” ปิดล้อมจับกุม “เสี่ยโป้ โป้อานนท์” ในข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์ และสมคบกันให้มีการเล่นพนันออนไลน์ ได้คาบ้านพักย่านเพชรเกษม ซอย 44 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ถัดมา “ผบ.ปั๊ด” ก็ใช้บริการ “หนุมานกองปราบ” บุกจับ “หลงจู๊สมชาย” สมชาย จุติกิติ์เดชา เจ้าของบ่อนพนันรายใหญ่ภาคตะวันออก ภายในบ้านพัก ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนัน พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งขยายผลมาจากบ่อนพนันหลายจังหวัดพื้นที่ภาค 2 ต้นตอการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ๐
แม้ “บิ๊กปั๊ด” จะโชว์การจับ หลงจู๊สมชาย ลบคำครหาที่ว่า “หลงจู๊” ขาใหญ่รู้จักผู้มีอำนาจกว้างขวาง ทั้งนักการเมืองและบิ๊กๆ ตำรวจ ไม่น่าจะมีใครกล้าจับไปแล้ว แต่ เผือกร้อน เรื่องผลการสอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำความผิดกรณีสถานที่เล่นการพนันเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดต่อโควิด-19 ที่มี ชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ เป็นประธาน ที่ส่งรายงานลับถึงมือ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พบการตรวจสอบบ่อนการพนัน จ.ระยอง 2 แห่ง ซึ่งเป็นบ่อนขนาดใหญ่และมีเจ้าของคนเดียวกัน เปิดมาแล้วมากกว่า 1 ปี มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องมากกว่า 10 ราย ทั้ง “ตำรวจ” และฝ่ายปกครอง เป็นอีกโจทย์ใหญ่ที่ “ผบ.ปั๊ด” ต้องเร่งนำรายชื่อ “ตำรวจ” ที่เกี่ยวข้องตามรายงานลับของคณะกรรมการชุด “ชาญเชาวน์” มารีเช็ก “ตำรวจ” เกี่ยวข้องเกี่ยวพันขนาดไหน และต้องรีบดำเนินการตามระเบียบวินัย และหากพยานหลักฐานถึงขั้นดำเนินคดีได้ก็ต้องรีบดำเนินการ เพราะถ้าไม่รีบเฉือนเนื้อร้ายเสียก่อน ชีวิตตนก็อาจจะรักษาไว้ไม่ได้ ๐
ร้อนระอุจริงๆ กับบันทึกสั่งการของ บิ๊กใหม่-พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส.) ส่งถึง บิ๊กรอย-พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.(สส.1) และ บิ๊กหนุ่ม-พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผบช.ภ.6 ให้ชี้แจงคดีจับไอซ์ 1.5 พันกิโล ที่ “บิ๊กใหม่” เคยสั่งให้เสนอชื่อคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน หลังพบมีตำรวจระดับ พล.ต.ท.และ พ.ต.อ.มีชื่อเกี่ยวข้อง แต่พนักงานสอบสวนกลับสรุปสำนวนการสอบสวน มีความเห็นเสนอพนักงานอัยการโดยไม่ได้ดำเนินคดีการสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าว ไม่มีการเรียกบุคคลที่ถูกกล่าวถึงมาให้ถ้อยคำ หรือแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือดำเนินการอื่นใดที่จำเป็นเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำผิด…ซึ่งบันทึกดังกล่าวกลายเป็น “ทอล์กออฟเดอะทาวน์” ในแวดวงสีกากีว่ามีอะไรในกอไผ่ นอกจากหน่อไม้หรือไม่ โดย บิ๊กแรก-พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมาแจงกระแสร้อน “…กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องปกติของการติดตามความคืบหน้าของงานตามระบบราชการ ซึ่งไม่มีนัยพิเศษแต่อย่างใด…” ๐
เหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง หมวดบอล-ร้อยตรี รุ่งเฉลิม พันธ์สวัสดิ์ รองผู้บังคับหมวดดุริยางค์มณฑลทหารบกที่ 210 อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม เสียชีวิตภายในค่ายพระยอดเมืองขวางอย่างอุกอาจ เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งประเด็นไว้ 2-3 ประเด็น สำหรับการดำเนินการของกองทัพภาคที่ 2 บิ๊กหม่อง-พล.ท.ธเนศ วงศ์ชะอุ่ม แม่ทัพภาคที่ 2 ลงนามคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาอีกคณะหนึ่ง เพื่อหาข้อเท็จจริงและดำเนินการช่วยเหลือ นอกจากนั้นยังมีคำสั่งให้ พล.ต.สามารถ จินตสมิทธิ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 (ผบ.มทบ.210) มาช่วยราชการที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 (บก.ทภ.2) ชั่วคราวจนกว่าคณะกรรมการจะสอบสวนแล้วเสร็จ โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะสอบสวนหาสาเหตุความบกพร่องในการรักษาความปลอดภัยในบริเวณค่ายด้วย รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ผู้บังคับกองร้อยรักษาการณ์ ทหารเวรที่อยู่ในวันเกิดเหตุ ว่าเหตุใดจึงมีเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นได้ ๐
ถือเป็นนโยบายของทุกเหล่าทัพ ในกรณีที่มีการกระทำผิดในการดูแล บังคับบัญชาหน่วยทหาร และกำลังพลของตนเอง ผู้บังคับบัญชาตามลำดับขั้นจะถูกลงโทษทางวินัย เช่นกรณีที่ พันจ่าเอก สังกัดหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 11 สำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา และพวก เข้าไปลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค ที่ บิ๊กแขก-พล.อ.นเรนทร์ สิริภูบาล ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (ผบ.นทพ.) สั่งการให้ลงโทษธำรงวินัยเป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่หัวหน้าชุดปฏิบัติงานน้ำ, ผู้บัญชาการพัฒนา นพค.11, ผู้บัญชาการ นพค.11, สนภ.1, นทพ. (ยศพันเอก) พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อหารายละเอียดต่อไป ส่วนพันจ่าเอกที่กระทำความผิด หน่วยต้นสังกัดได้นำผู้ต้องหาส่งศาลมณฑลทหารบกที่ 17 (มทบ.17) เพื่อขออำนาจฝากขังตามขั้นตอนกฎหมาย ๐
หากพูดถึง นทพ. หรือหน่วย นักรบสีน้ำเงิน เนื่องจากกำลังพลใส่เครื่องแบบซาฟารีสีน้ำเงิน ทำงานในพื้นที่ห่างไกลกับภารกิจเข้าไปพัฒนาพื้นที่ทุรกันดาร ช่วยเหลือประชาชน เป็นหน่วยทหารในสังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีข่าวดีเกิดขึ้นเหมือนกัน เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ พล.ต.สมบัติ ธัญญะวัน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาภาค 1 นทพ. (อัตรา พลตรี) ปรับย้ายมาสังกัดหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ดำรงตำแหน่ง นายทหารปฏิบัติการพิเศษ สำนักงานนายทหารปฏิบัติการพิเศษในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หน่วยบัญชาการ ถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ และพระราชทานยศ พลโท สำหรับ พล.ต.สมบัติ สำเร็จการศึกษาหลักสูตรนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่น 35 (เตรียมทหารรุ่น 24) เหล่าทหารม้า เคยผ่านหลักสูตรทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ หรือเรียกว่าทหาร “คอแดง” และเคยดำรงตำแหน่ง รองผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (รอง ผบ.พล.ม.2 รอ.) ก่อนย้ายมากองทัพไทยทำงานจิตอาสามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการ โคก หนอง นา โมเดล ๐
สำหรับแฟนคลับเรือดำน้ำเตรียมเสพข้อมูลได้เต็มที่ หลังจาก พล.ร.ท.เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษก ทร.แจ้งข่าวว่า ทร.ได้จัดทำ Facebook Fanpage “เรือดำน้ำไทย Thai Submarines” เพื่อสร้างการรับรู้เรื่องเรือดำน้ำแก่สาธารณชนผู้สนใจ โดยการจัดตั้งสื่อกลางในรูปแบบ Social Media เนื่องจากกองทัพเรือไม่เคยจัดตั้งสื่อกลางใน Social Media เพื่อการค้นคว้าหาความรู้เรื่องเรือดำน้ำขึ้นมาโดยเฉพาะมาก่อน ตั้งแต่ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับเรือดำน้ำ, ประวัติศาสตร์เรือดำน้ำทั้งของสากลและของไทย, สารคดีเกี่ยวกับเรือดำน้ำ, ข่าวสารทั่วไปเกี่ยวกับเรือดำน้ำทั้งในและต่างประเทศ, บทความทั่วไป บทวิเคราะห์ บทความทางวิชาการ, ข้อถามตอบ/แลกเปลี่ยนความคิดเห็น, การนำเสนอกิจกรรมที่เกิดขึ้น, ลิงก์ต่างๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรือดำน้ำ, การแถลงข่าวของกองทัพเรือ แต่สำหรับนักสังเกตการณ์ทางการเมืองเริ่มหูผึ่ง ต่อมติดตามโครงการจัดหาเรือดำน้ำจีนลำที่ 2-3 เริ่มทำงาน จับยามสามตาว่าจะมีการขยับในแผนงบประมาณ 2565 หรือไม่.