จากผลงานของทีม “เขี้ยวสมุทร” สมุทรปราการ ซิตี้ ที่ล่าสุดบุกชนะ ระยอง เอฟซี 1-0 ที่สนามกีฬากลาง จ.ระยอง เมื่อวันเสาร์ที่ 13 ก.พ.64 โดยถือเป็นการปลดล็อคชัยเกมแรกในรอบ 4 นัดจากการกลับมาแข่งขันหลังโควิด-19 ซึ่งในเกมที่เกิดขึ้นมีหลายๆจังหวะที่ทัพ “เขี้ยวสมุทร” มองว่าการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน นพภเดช เมืองงาม รวมถึงผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ค่อนข้างที่จะปล่อยให้นักเตะโดนทำฟาวล์หนักๆและเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บด้วย และทำให้ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือของทีมถึงขั้นฟิวล์ขาด ต้องออกไปโวยผู้ตัดสินจนได้รับใบเหลืองไปด้วยในช่วงท้ายเกม
ทีมงานฟุตบอลสยามรายวัน สอบถาม “มาซาทาดะ อิชิอิ” กุนซือสมุทรปราการ ซิตี้กับเกมที่เกิดขึ้นว่า “อย่างแรกต้องบอกว่า ระยอง เอฟซี เป็นทีมที่ดีมากๆ แต่เราก็สามารถที่จะบุกมาเก็บชัยชนะและนำ 3 แต้มกลับบ้านก็ถือว่าโอเคแล้ว ตอนนี้ที่เห็นได้ชัด คือ นักเตะเริ่มจะอ่อนล้าแล้ว คือมีอาการอ่อนล้าหลังจากที่เล่นไปใน 90 นาทีแบบหลายๆเกม”
“การตัดสินในเกมเป็นหน้าที่ของกรรมการ แต่การเซฟนักเตะก็เป็นเรื่องสำคัญเหมือนกัน ซึ่งส่วนตัวมองว่า อยากให้ผู้ตัดสินกล้าตัดสินใจในจังหวะสำคัญๆ ใบเหลืองก็ควรให้ใบเหลือง ส่วนช็อตไหนที่จะเป็นใบแดงมันก็ควรจะเป็นใบแดง กล้าตัดสินใจว่าจังหวะนี้จะฟาวล์หรือไม่ฟาวล์ เพราะเราต้องการให้นักเตะปลอดภัยจากอาการบาดเจ็บที่จะเกิดขึ้น”
มาซาทาดะ อิชิอิ ยังเผยถึงสาเหตุที่ตนเองโดนใบเหลืองในเกมนี้ด้วยว่า “สาเหตุที่ผมโดนใบเหลือง ลูกที่ฟาวล์ จังหวะที่ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี โดนทำฟาวล์ คือก็เห็นทั้งไลน์แมนและกรรมการ กรรมการก็อยู่ใกล้ แต่กรรมการและไลน์แมนกลับมาบอกว่า การตัดสินมันต้องมีการดู VAR ถ้าเกิดว่าจะต้องตัดสินอะไรที่มันนอกเหนือกว่านั้น คือจังหวะนั้นมันค่อนข้างจะเห็นชัดเจนมาก ถ้าต้องพึ่ง VAR มันจะกลายเป็นว่าผู้ตัดสินไม่ได้เซฟตัวนักเตะเลย ซึ่งมันเห็นชัดเจน ทั้งตัวไลน์แมน และผู้ตัดสิน ไม่จำเป็นต้องไปดู VAR เลย”
“ผมอยากให้คิดว่า ฟุตบอลไทยลีกปีนี้จากนี้ไป เกมมันแน่น ก็อยากฝากให้กรรมการทุกท่านช่วยพิจารณาเรื่องนี้ด้วยครับ การป้องกัน การเซฟนักเตะ ฟาวล์ก็ฟาวล์ เหลืองก็เหลือง แดงก็แดง ต้องกล้าตัดสินใจและต้องเด็ดขาด”
กุนซือเขี้ยวสมุทรยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า “ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตที่โดนใบเหลืองในฐานะโค้ชตั้งแต่ทำทีมฟุตบอลมาเลยก็ว่าได้”