เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ระยอง- “เสธฯช้าง “หัวหน้าชุดศูนย์ประสานปฏิบัติการที่ 4 กอ.รมน. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการลักลอบขุดทรายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาห้วยมะหาด -เขานั่งยอง –ป่าเขาครอก จ.ระยอง หลังชาวบ้านร้องนายทุนทำเดือดร้อน พบมีทั้งแคมป์คนงาน-เครื่องจักรกลหนัก แต่จับใครไม่ได้ เชื่อข่าวรั่ว!!
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ ( 23 เม.ย.) พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุด ศปป.4 กอ.รมน. พร้อมหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าระยอง 2 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบ่อทรายในพื้นที่ ม.7 ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง หลังได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีนายทุนลักลอบขุดทรายในสวนป่าห้วยมะหาด –เขานั่งยอง ป่าเขาครอก ซึ่งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนหวงห้ามปี 2492
โดยชาวบ้านแจ้งว่าในช่วงเช้าที่ผ่านมาบริเวณดังกล่าวมีคนงานจำนวนพร้อมรถแบ็คโฮและรถบรรทุก 10ล้อจำนวนหลายคันวิ่งเข้าออกบริเวณบ่อทราย จนทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายรบกวนชาวบ้าน
ขณะที่ พ.อ.พงษ์เพชร หัวหน้าชุดศูนย์ประสานปฏิบัติการที่ 4 กอ.รมน. เผยว่าจากการนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณบ่อทรายในจุดที่ได้รับแจ้งก็พบว่ามีรถบรรทุก 10ล้อจำนวนหลายคันและรถแบ็คโฮจอดอยู่นอกบ่อทรายจำนวน 1 คัน นอกจากนั้นยังพบแคมป์คนงานอีกจำนวนหลายหลังแต่กลับไม่พบคนงานแม้แต่คนเดียว โดยเชื่อว่าที่เป็นเช่นนี้เพราะข่าวรั่ว
“ จากการตรวจสอบยังพบเครื่องจักรล้างทราย และการขุดร่องน้ำสาธารณะจนสร้างความเสียหายต่อสภาพแวดล้อม ซึ่งขณะยังไม่สามารถตรวจยึดบ่อทรายได้เพราะจะต้องทำการตรวจสอบพิกัดพื้นที่ให้ชัดเจนก่อน เช่นเดียวกับการตรวจสอบข้อมูลผู้ถือครองพื้นที่ว่าถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่”
อย่างไรก็ตามจากการลงพื้นที่พบว่ามีการลักลอบขุดทรายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาห้วยมะหาด -เขานั่งยอง และป่าเขาครอก ซึ่งอยู่ในพื้นที่สงวนหวงห้ามปี 2492 จริง แต่ผู้นำท้องถิ่นกลับอ้างว่าพื้นที่ที่ตรวจพบการลักลอบขุดบ่อทรายอยู่ในพื้นที่โครงการจัดสรรที่ดินทำกินให้ชุมชน หรือ คทช.มีการลงทะเบียนผู้ครอบครองที่ดินในเขตหวงห้ามตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดิน ในท้องที่ ต.ห้วยโป่ง และต.สำนักท้อน อ.เมืองระยอง พ.ศ. 2492 ไว้ใช้ประโยชน์ในราชการแห่งกรมป่าไม้
“ แต่นี่ไม่ได้ทำกินโดยปกติคือลักษณะการทำไม่ใช้ผู้ยากไร้ มีการใช้เครื่องจักรกลขนาดใหญ่ทำให้เสื่อมสภาพ และไม่รู้ว่ามีการขออนุญาตหรือไม่ ซึ่งหลักการของผมคือการบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด ผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีและหากมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องหรือมีหลักฐานชัดเจนก็ จะต้องถูกดำเนินคดีทุกคน และหลังจากนี้จะส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” พ.อ.พงษ์เพชร กล่าว