ชุดปฏิบัติการพิเศษระยองสนธิกำลังชุดปฏิบัติการข่าว กอ.รมน.บุกจับนายทุนลอบขุดดินลูกรังขาย

ระยอง -​ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ปกครองระยอง สนธิกำลังชุดปฏิบัติการข่าว กอ.รมน. บุกจับนายทุนลอบขุดดินลูกรังออกขาย ยยึดของกลางทั้งรถแบ็กโฮ รถ 10 ล้อ ตั้งข้อหาขุดดินถมดินโดยไม่ได้รับใบรับแจ้งจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น

วันนี้ (31 ต.ค.)​ นายสุพจน์ ต่ออาจหาญ ปลัดจังหวัดระยอง พร้อมด้วย ร.ท.ภสุ ทิพยจันทร์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ  ชุดปฏิบัติการข่าว กอ.รมน. กองร้อย อส.จังหวัดระยอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่บุกเข้าจับกุม นายสมจิน อาจิน อายุ 50 ปี คนขับรถแบ็กโฮ พร้อมยึดของกลางรถแบ็กโฮยี่ห้อโกเบลโก้ สีฟ้า และรถบรรทุก 10 ล้อขนดิน ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 82-1221 ระยอง

การจับกุมดังกล่าวเป็นผลจากการที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ (ฝ่ายปกครองจังหวัดระยอง) ได้รับร้องเรียนว่ามีการลักลอบขุดดินลูกรังในพื้นที่ ม.4 ต.ซากพง อ.แกลง จึงประสานหน่วยงาน​เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบ กระทั่งพบรถแบ็กโฮที่กำลังตักดินใส่รถบรรทุก 10 ล้อที่จอดต่อคิวอยู่หลายคัน

และยังได้ขอตรวจสอบใบอนุญาตในการขุดถมดินจาก นายเขียว (ไม่ทราบนามสกุล)​ ซึ่งเป็นลูกเขยอดีตนักการเมืองท้องถิ่น ที่รับเป็นเจ้าของเครื่องจักรทั้งหมด และยอมรับว่าได้ขุดดินในที่ดินที่มีโฉนดของ นางบุญช่วย อาจิน จำนวน 9 ไร่ เพื่อนำดินลูกรังไปส่งให้ลูกค้าที่ต้องการถมและปรับที่ดิน และยังยอมรับว่าไม่ได้ขออนุญาตขุดดินถมดินจากเทศบาลตำบลสุนทรภู่ 

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานพร้อมนำสำเนาโฉนดที่ดินและสำเนารถแบ็กโฮ รวมทั้งเครื่องจักรต่างๆ ประกอบสำนวน พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาขุดดินถมดินโดยไม่ได้รับใบรับแจ้งจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นตาม พ.ร.บ.การขุดดิน และถมดิน พ.ศ.2543 มาตรา 17, 26 ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.กร่ำ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขณะที่ นายสุพจน์ ต่ออาจหาญ ปลัดจังหวัดระยอง เผยว่า ตามนโยบายของ นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้​ว่าราชการ​จังหวัดระยอง ที่เน้นย้ำเรื่องการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้กระทำความผิดในเรื่องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการปราบปรามปัญหายาเสพติด และอบายมุขต่างๆ และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษขปกครองจังหวัดระยอง ได้ดำเนินการจับกุมมาโดยตลอด 

ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นผู้กระทำความผิด หรือมีปัญหาเรื่องยาเสพติด ผู้ค้า ผู้เสพ สามารถแจ้งมายังศูนย์ดำรงธรรมในทุกอำเภอหรือจังหวัด โดยจะมีเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษเข้าตรวจสอบและดำเนินการจับกุม ส่วนผู้แจ้งข้อมูลจะถูกปิดเป็นความลับและไม่นำข้อมูลมาเปิดเผย