Print this page
น.ส.ไตรศุลี สรณคม รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตราย ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ โดยปรับปรุงรายการและค่าใช้จ่ายในบัญชีแนบท้าย 98 รายการ เช่นเพิ่มค่าห้องปฏิบัติการด้วยวิธี RT-PCR การตรวจหาแอนติบอดี และค่าบุคลากรการจัดการศพผู้เสียชีวิต ค่าบริการตรวจเยี่ยมของแพทย์และพยาบาลที่ทำโดยวิธีการออนไลน์
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้ความช่วยเหลือกลุ่มอาชีพขับขี่รถรับจ้าง หรือ แท็กซี่ และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ที่มีอายุเกิน 65 ปี ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดหรือพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด โดยอนุมัติกรอบวงเงินจำนวน 166.94 ล้านบาท ช่วยเหลือคนละ 5,000 บาทต่อเดือน โดยพื้นที่ 13 จังหวัดเดิม ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร ชลบุรี ฉะเชิงเทรา นครปฐม นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา ยะลา สงขลา สมุทรปราการ และสมุทรสาคร ได้รับเงินช่วยเหลือจำนวน 2 เดือน รวม 10,000 บาท ส่วนอีก 16 จังหวัดเพิ่มเติม ประกอบด้วย กาญจนบุรี ตาก นครนายก นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี เพชรบูณ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี สระบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง และสมุทรสงคราม จะได้รับคนละ 5,000 บาท โดยผู้มีสิทธิได้รับจะต้องมีรายชื่ออยู่ในฐานข้อมูลของกรมการขนส่งทางบกและไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 39 และ 40 โดยมีเป้าหมายผู้ขับแท็กซี่จำนวน 12,918 ราย และผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ 3,776 ราย วิธีโอนเงินโดยสมัครที่กรมการขนส่งทางบก และผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชน จะมีการเร่งจ่ายเงินภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
นายธนกร แถลงว่า สำหรับแนวทางการเปิดประเทศนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงว่า ยังพอมีเวลาในการเตีรยมการ ช่วงนี้ขอให้ประชาชน ธุรกิจ ผู้ประกอบการ และที่เกี่ยวข้อง การ์ดอย่าตก อย่าฝ่าฝืนมาตรการซึ่งอาจทำให้สถานการณ์แพร่ระบาดเกิดขึ้นรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง
Hfocus ปิดการแสดงความคิดเห็นท้ายข่าว/บทความ
สำนักข่าว Hfocus มีความจำเป็นต้องปิดการแสดงความคิดเห็นในเนื้อหาที่นำเสนอ เนื่องจากที่ผ่านมามีการเผยแพร่ข้อความที่ไม่เหมาะสมในช่องแสดงความคิดเห็นดังกล่าว อาทิ การโฆษณาขายสินค้าที่สุ่มเสี่ยงต่อกฎหมาย การเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคล ชื่อ นามสกุล หมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ ด้วยความเข้าใจผิด หรือเพื่อเป็นการกลั่นแกล้ง แม้จะลบข้อความดังกล่าวออกไปจากระบบเว็บไซต์ของสำนักข่าว Hfocus แล้ว แต่ก็ยังมีข้อความบางส่วนปรากฎอยู่ในฐานข้อมูลของ Google โดยต้องแจ้งให้ Google เป็นผู้ดำเนินการลบข้อความดังกล่าว
คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม